“เราได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากจิตวิญญาณที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาซึ่งการหารือเกิดขึ้น และหวังว่าการดำเนินการต่างๆ ที่ประกาศจะส่งผลดีโดยตรงต่อผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการพลัดถิ่น” โวลเกอร์ เติร์ก ผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ด้านการคุ้มครองสำหรับ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( UNHCR ) ในคำปราศรัยปิดการประชุมระดับสูงซึ่งปิดฉากลงเมื่อวานนี้โดยมี UNHCR และองค์การรัฐอเมริกัน (OAS) เป็นประธานร่วม
การประชุมเป็นเวลา2 วัน ถือเป็นงานระดับนานาชาติงานแรกที่มุ่งเน้นไปที่การบังคับพลัดถิ่นในปัจจุบัน
ในภูมิภาค และเป็นหนึ่งในงานสำคัญที่นำไปสู่การ ประชุมสุดยอดสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่าด้วยการพูดคุย การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพในเดือนกันยายน
จำนวนผู้ลี้ภัยจากความรุนแรงในเอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และฮอนดูรัส ภูมิภาคที่เรียกว่าสามเหลี่ยมทางเหนือของอเมริกากลาง พุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่ความขัดแย้งทางอาวุธทำลายล้างภูมิภาคนี้ในทศวรรษ 1980 ตามรายงานของ UNHCRในปี 2558 ผู้ขอลี้ภัยจากภูมิภาคนี้มีเกือบ 110,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่แสวงหาความปลอดภัยในเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา รวมถึงเบลีซ คอสตาริกา นิการากัว และปานามา
ชุดปฏิบัติการที่ตกลงร่วมกันในงาน ได้แก่ การรับรองการเข้าถึงดินแดนและที่ลี้ภัย และการปรับปรุงการเตรียมการสำหรับการต้อนรับผู้ขอลี้ภัยและผู้ลี้ภัย
การเสริมสร้างโอกาสในการพึ่งพาตนเองและการรวมกลุ่มของผู้ลี้ภัยในท้องถิ่น
รวมถึงการลงทุนของเงินทุนเพื่อการพัฒนา และส่งเสริมความร่วมมือและหุ้นส่วนระดับภูมิภาคผ่านการแบ่งปันความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นจากองค์กรภาคประชาสังคม
ในบรรดาประชากรพลัดถิ่นจากภูมิภาค ความต้องการการคุ้มครองเด็ก ผู้หญิง เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล คนข้ามเพศ และคนข้ามเพศ ชนพื้นเมืองและลูกหลานชาวแอฟโฟร รวมถึงบุคคลทุพพลภาพเป็นสิ่งที่รุนแรงที่สุดในหมู่ประชากรพลัดถิ่นจากภูมิภาค
นาย Filippo Grandi ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวเปิดงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงความสำคัญของการยอมรับ “กลไกการแบ่งปันความรับผิดชอบระดับภูมิภาค ด้วยการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในประเทศต้นทาง ทางผ่าน และที่ลี้ภัย เพื่อแก้ปัญหาความต้องการการป้องกันและการแก้ปัญหาที่น่าสนใจ”
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บตรง100 / สล็อตแตกง่ายเว็บตรง